ประเพณีลงข่วง
ฮีต 12
คลอง 14
บายศรี
ประเพณีขึ้นบ้านใหม่
ประเพณีแต่งงาน
ประเพณีสู่ขวัญข้าว
ประเพณีการซ้อนขวัญ
ประเพณีการเลี้ยงผี

ขึ้นบ้านใหม่
พิธีขึ้นบ้านใหม่
ประเพณีขึ้นบ้านใหม่เป็นประเพณีที่ชาวภูไทกระทำ พอถึงฤกษ์ แล้วก็จัดคนออกเป็นสองพวก พวกหนึ่งเป็นเจ้าของเรือน พวกนี้เตรียมหาใบกล้วยเอาหินทับวางไว้ที่พื้นกะได อีกพวกหนึ่งหาบสิ่งของจะมาขึ้นเรือนใหม่ หัวหน้าคนหนึ่งเดินออกหน้าใส่พายถุง ในถุงมีสิ่วกับค้อน ของค้ำคูณมี คุด เขา นอ งา เป็นต้นเมื่อถึงเรือนแล้วเดินเวียนขวารอบเรือนประมาณ 3 รอบแล้วหยุดยีนตรงหน้ากะได ผ่ายเจ้าของเรือนคอยทักทายปราศัย กับพวกที่มาอยู่ตรงกระไดทำอาการขึงขันแล้วถามว่า เฮ้ย..พวกนี้หาบกระต่าขนสิ่งของมาแต่กะเลอ

ตอบ โอ้ย..ข้าน้อยมาแต่เมืองมั่นพอง ( เป็นเมืองที่มั่งคั่งสมบูรณ์ในสมัยโบราณ) ได้ข่าวว่าลูกหลานปลูกเฮือนใหม่ใส่หญ้าเต็มว่าสิมาค้ำมาคูณ ให้ปักกุ่มชุ่มเย็นให้อยู่ดีมีแฮง ความเจ็บบ่ให้ได้ความไข้บ่ให้มี บ่ให้ขาดให้เขิน ทุกอันทุกแนวแล้วข้าน้อย

* หมายความว่า ข้าน้อยมาแต่เมืองมั่นพอง ( เป็นเมืองที่มั่งคั่งสมบูรณ์ในสมัยโบราณ) ได้ข่าวว่าลูกหลานปลูกบ้านใหม่ จึงมาเพื่อเป็นศิริมงคล ให้อยู่เย็นเป็นสุข โรคภัยต่างๆก็ไม่มี

(ต่อไปผู้ถามทำเสียงอ่อนลงแล้วพูดว่า)

ถาม เอ้อ.คันสิมาค้ำมาคูณให้อยู่ดีมีแฮงให้ปักกุ่มชุ่มเย็นให้อยู่ดีมีแฮง ความเจ็บบ่ให้ได้ความไข้บ่ให้มี บ่ให้ขาดให้เขิน กะดีแล้ว เพิ่นได้เผอมานำแหน

* หมายความว่า จึงมาเพื่อเป็นศิริมงคล ให้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่ให้เกิดโรคภัยต่างๆ ก็ดีแล้วมีใครมาบ้างหละ

ตอบ ได้มาพร้อมทุกอันทุกแนวแล้ว

* หมายความว่า มีมาครบทุกสิ่งทุกอย่าง

ถาม กุบส่องฟ้า ผ้าส่องดาวได้มานำบ้อ

* หมายความว่า นำกุบส่องฟ้า ผ้าส่องดาวมาด้วยไหม

ตอบ ได้มาอยู่

* หมายความว่า นำมาด้วย

ถาม ข้อยข้าชายหญิงได้มานำบ้อ

* หมายความว่า ได้นำบริวารมาด้วยไหม

ตอบ เอ้อ ..ข้อยข้า ชายหญิงผ้าผ่อนท่อนสไบ มีดไม้แหลมหลาว แก้วแหวนเงินทองได้มาพร้อม

*หมายความว่า ได้นำมา ผ้าสไบ มีด แก้วแหวนเงินทองต่างๆก็นำมา

ถาม ช้างม้าวัวควายได้มาบ้อ

* หมายความว่า ได้นำช้างม้าวัวความมาด้วยไหม

ตอบ ได้มา

* หมายความว่า นำมาด้วย

ถาม แหลุทองมองลูกกั่วได้มาบ้อ

* หมายความว่า นำแห อวนที่ตระกั่วทำด้วยทองมาด้วยไหม

ตอบ ได้มา

* หมายความว่า นำมาด้วย

ถาม น้ำมัน (สุรา) ได้มาบ้อ

*หมายความว่า ได้นำสุรามาด้วยไหม

ตอบ ได้มา

* หมายความว่า นำมาด้วย

ผู้ทำหน้าที่ถามพูดต่อไปอีกว่า เอ้อ..คันเพิ่นมาค้ำคูณ ให้ลูกหลานอยู่ดีมีแฮง ได้มาคู่อันคู่แนวแล้วก็เชิญขึ้นมาก่อน

ต่อจากนั้นพวกที่มาก็จะเหยียบก้อนหินล้างเท้าขึ้นไปบนเรือน พวกหาบของก็จะนำหาบของไปห้องกลาง ผู้พายถุงก็จะทำที่ห้อย ถุง เอาสิ่วมาตอกลงที่เสาขวัญแล้วห้อยถุงไว้ ถุงนี้ห้อยไว้ถึง 7 วันคำกล่าวตอกสิ่วมีดังนี้

ตอกบาดหนึ่ง ให้ได้ฆ้องเก้ากำ

ตอกบาดสองให้ได้คำเก้าหมื่น

ตอกบาดสามให้ได้เล้าข้าวหมื่นมาเยีย

ตอกบาดสี่ให้ได้เมียสาวมานอนข้าง

ตอกบาดห้าให้ได้ช้างใหญ่มาโฮง

ตอกบาดหกให้ได้ชายโถงมานอนเฝ้าเล้า

ตอกบาดเจ็ดให้ได้ผู้เฒ่ามานอนเฝ้าเฮือน

คาถา “โอมอุอะมหามูลมัง” พอตอกแล้วเอาถุงห้อย

เมื่อเอาถุงห้อยแล้วจัดที่นอน ก่อนจะนอนเอาไปปะแป้งแต่งตัว แล้วเอามานอนห่มผ้าคลุมโปง นอนกรน คนหนึ่งทำทีเป็นไก่ขัน ขันสามครั้งบอกเวลารุ่งเช้า ผู้นอนก็ตื่นขึ้นมาแก้ความฝัน(เล่าความฝัน)

ความฝัน บะ..ฝันคืนนี้ฝันดีประหลาด ฝันว่าเพิ่นนี้จูงแขนเข้าพาขวัญแกะไข่ ฝันว่าเพิ่นนี้จับไข่ป้อนแก่เฮา หมดขบวนแล้วคนเมือเกลี้ยงอ่อนห้อย ฝันว่าพี่จับจ่องน้องพี่จับจ่องนิ้วเอาอ้าย เข้าบ่อนนอน

* หมายความว่า ฝันคืนนี้ ฝันดีมาก ฝันว่ามีคนจูงแขนเขางานแต่งงาน ฝันว่าเขาป้อนไข่ตน แต่งงานเสร็จผู้คนกลับบ้านกันหมดไม่เหลือใคร ฝ่ายหญิงจูงนิ้วตนเข้าไปห้องนอน

เมื่อแก้ความฝันเสร็จ เจ้าของเรือนก็ให้พรว่า

เออ..นอนหลับให้เจ้าได้เงินหมื่นนอนตื่นให้ได้เงินแสน แบมือมาให้ได้แก้วมณีโชติ โทษฮ้ายอย่ามาพาล ฝูงมารอย่ามาข้อง ฝูงพี่น้องมิตรสหาย โอมสหม….

* หมายความว่า นอนหลับให้เจ้าได้เงินหมื่นนอนตื่นให้ได้เงินแสน แบมือมาให้ได้แก้วมณีโชติ ความชั่วร้ายต่างอย่าได้เข้ามาใกล้ ญาติมิตรพี่น้อง